สถานที่ท่องเที่ยวบึงกาฬที่ใครไปเที่ยวแล้วจะต้องแวะไปเพื่อไหว้พระ ชื่นชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของบึงกาฬ นั่นคือ "วัดเจติยาศรีวิหาร" อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ถ้าบอกว่า "วัดภูทอก" ทุกคนจะต้องร้องอ๋อแน่นอน

ภูทอก ภาษาอีกสานแปลว่า โดดเดี่ยว ภูทอกที่บึงกาฬมี 2 ลูก คือ ภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย แต่ภูทอกใหญ่ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่เปิดเฉพาะภูทอกน้อยเท่านั้น 

ก่อนเข้าไปบนภูทอกก็จะมีกฎระเบียบต่างๆให้ทราบกันก่อน รบกวนปฎิบัติตามกันด้วยนะ 

ภูทอกน้อย เป็นบันไดและสะพานเวียนรอบภูทอกแบบ 360 องศา มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้น 1-2 เป็นบันไดขึ้นไปชั้น 3 เพื่อเป็นจุดเริ่มสะพานวนรอบภู, ชั้น 4 เป็นสะพานที่เวียนรอบเขา จะเห็นเนินเขาที่เรียกว่า "ดงชมพู" และชั้นนี้จะเป็นที่พักของแม่ชี ดังนั้นต้องขึ้นไปชมวิวอย่างสงบๆ อย่าส่งเสียงดัง

ชั้น5 (ชั้นกลาง) จะมีศาลาใหญ่ มีพระพุทธรูป และเป็นที่เก็บสังขารของพระอาจารย์จวน และตลอดทางชั้น 5 ก็จะมีถ้ำอยู่หลายจุด มีที่นั่งพัก ชมความสวยงามของถ้ำระหว่างทาง และจะมีสะพานหินเชื่อมกับพุทธวิหาร ที่จะมองเห็นภูทอกใหญ่ได้ชัดเจน

ส่วนชั้น 6 จะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ส่วนชั้น 7 หรือดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่เดินลำบากและมีป้ายเตือนระวังงูด้วย ดังนั้น เราจะหยุดกันแค่ชั้น 6 พอ

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เหยียบบันไดขั้นแรกประมาณ 08.30 น. บรรยากาศเงียบสงบมาก อากาศเย็นสบาย ร่างกายเราพร้อมมาก อ้อ!! อย่าลืมพกน้ำเปล่าติดตัวกันไปด้วยก็ดีนะ

สายตาที่เราเงยหน้าไปเห็นตอนเหยียบบันไดขั้นแรก คือ "บันได" อ่อม....บันได นั่นคือ บันไดที่เราจะขึ้นไปใช่มั๊ย!!! 

ป่ะ!! พอถึงทางแยกเราก็แยกไปทางขวากัน ซึ่งก็ไปได้ทั้ง 2 ทางแล้วแต่เราจะเลือก

พอเริ่มขึ้นชั้น 3 จะเริ่มเป็นทางเดินรอบภู และจะวนไปเรื่อยๆจนถึงประมาณชั้น 5 วิวมุมสูงสวยและลมพัดเย็นสบาย ความเหนื่อยจากการขึ้นบันไดแต่ละชั้นก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย  ซึ่งสำหรับเราไม่ได้กลัวความสูง ก็จะสามารถชื่นชมความสวยงามได้สบาย แต่ถ้าคนกลัวความสูงมากๆ อาจจะไม่เหมาะที่จะขึ้นไปด้านบน  

เดินขึ้นมาชั้น 4 ก็จะเห็น "เขาดงชมพู" ด้วย

ชั้น5 (ชั้นกลาง) จะมีศาลาใหญ่ มีพระพุทธรูป และเป็นที่เก็บสังขารของพระอาจารย์จวน และมีที่ให้นั่งพักอยู่หลายจุด เหนื่อยๆ ก็พักชมวิว ไหว้พระกันที่ชั้นนี้กันก่อนได้

พอถึงชั้น 5-6 ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะวิวและบรรยากาศที่ดี ได้ไหว้พระ สิ่งศักดิ์สิทธิด้านบน และพอถึงชั้น 6 เราก็เริ่มที่จะเดินลงด้านล่าง โดยจะเดินลงกันอีกทาง ซึ่งระหว่างทางก็จะมีพระพุทธรูปที่อยู่ตามแนวเขา แนวถ้ำ ให้เราสักการะ ช่วงตรงนี้จะเย็นๆหน่อย 

เราใช้เวลากันข้างบนเกือบ 3 ชั่วโมง แต่เวลาผ่านไปเร็วมาก ลงกันดีกว่า ตอนลงใช้เวลาแปปเดียวก็ถึงด้านล่างแล้ว

อาหารกลางวันของเราจะขับรถออกไปหาร้านข้างนอกก็จะหิวกันไม่ไหว เราเลยขอฝากท้องไว้ร้านอาหารแถววัด ชื่อ "ร้านยายสมจิตร" อยู่ด้านหน้าวัดภูทอกเลย อาหารมีหลายอย่างให้เลือก ทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ  ส่วนบรรยากาศภายในร้านโล่งๆ ลมโกรกเย็นสบาย

จัดกันมาเต็มโต๊ะ เพราะเมื่อเช้าใช้พลังกันมากไปหน่อย

จานแรก คือ หมูกระเทียม+ไข่ดาว จานนี้เราชอบมาก เพราะทอดกระเทียมแบบมีน้ำชุ่มๆหน่อย หมูนุ่มเลย ส่วนน้ำกระเทียม เค็มๆหวานๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ นี่ใช่เลย!!

ไก่ย่างครึ่งตัว ไก่ที่มาย่างน่าจะเป็นไก่บ้าน แต่สำหรับเราย่างแห้งไปหน่อย แต่ก็ทานได้นะ

ส้มตำปู ปลาร้า จานนี้อร่อย กลิ่นปลาร้าหอมมาก แต่เราสั่งแบบไม่เผ็ดมาก สีก็เลยดูจืดไปหน่อย แต่อร่อยดี

น้ำตกคอหมูย่าง คอหมูย่างแบบนี้ซิ ย่างไม่แห้งเกินไป กำลังชุ่มฉ่ำเลยเอามาทำน้ำตก รสชาติจัดจ้าน ทานกับข้าวเหนียว เข้ากั๊น...เข้ากันที่สุด

การมาเที่ยวภูทอก อาจจะเหนื่อยหน่อยในตอนแรก ชั้นที่1-2 เพราะต้องขึ้นบันไดเป็นส่วนใหญ่ แต่พอได้ขึ้นไปด้านบน ได้เห็นวิว สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ใครที่มาบึงกาฬแล้ว อย่าพลาดที่จะมาเยือนที่ ภูทอก นะ 

วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก)
   ที่ตั้ง: บ้านคำแคนพัฒนา ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
   เบอร์: 087-771-8621
   FB: www.facebook.com/WadPhuThxk/ 
   Map: https://goo.gl/maps/sujsji51fjwB9Fnn9