ทริปไหว้พระ สายมู ที่ "บึงกาฬ"
วันที่ : 2023.11.28

ทริปนี้เราจะอยู่บึงกาฬ 6 วัน 5 คืน แล้วค่อยไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่ list ไว้ เราเลือกโรงแรม "The One Bueng Kan" อยู่กลางเมือง ข้างโรงแรมมี Lotus ด้วย สะดวกสบาย และเวลาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆก็ไม่ไกลมาก ประมาณ 40-70 กิโลเมตร พอขับรถชิลๆได้
ที่นั่งพักภายในโรงแรม (Lobby) ตกแต่งสวย และน่ารักมาก เหมือนคาเฟ่มากกว่าโรงแรมนะ
" The One suite Room" ห้องพักกว้างเช่นกัน อยู่ชั้น 5 ของโรงแรม แบ่งห้องเป็นสัดส่วน เห็นวิวโลตัสเต็มตา
🎯 The One Hotel Bueng Kan
📌 ที่ตั้ง: ถ.บึงกาฬ-นครพรม ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ
☎️ เบอร์: 091-057-5159
📲 FB: www.facebook.com/hoteltheone
🚗 Map: https://goo.gl/maps/gKKymHfEqkvbWmxz9
เที่ยวบึงกาฬเราไปหลายที่ที่เค้าว่ากันว่าดี ที่ว่าเด็ด (ยกเว้นถ้ำนาคานะ) ที่แรกเราไปขอไปไหว้พระกันซะก่อน ชื่นชมวิวทิวทัศน์ อันสวยงามของบึงกาฬ นั่นคือ "วัดเจติยาศรีวิหาร" อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ถ้าบอกว่า "วัดภูทอก" นั่นเอง
ภูทอก ภาษาอีกสานแปลว่า โดดเดี่ยว ภูทอกที่บึงกาฬมี 2 ลูก คือ ภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย แต่ภูทอกใหญ่ไม่เปิดให้ นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่เปิดเฉพาะภูทอกน้อยเท่านั้น และใครที่จะไปเที่ยวอาจจะต้องออกกำลัง ฟิตร่างกายกันสักหน่อย เพราะตั้งแต่ด้านล่างจนถึงประมาณชั้น5 จะต้องใช้พละกำลังนิดนึง แต่พอได้ขึ้นไปแล้วสวยมากๆ จริงๆ
🎯 วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก)
📌 ที่ตั้ง: บ้านคำแคนพัฒนา ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
☎️ เบอร์: 087-771-8621
📲 FB: www.facebook.com/WadPhuThxk/
🚗 Map: https://goo.gl/maps/sujsji51fjwB9Fnn9
สถานที่ต่อมา "หินสามวาฬ" อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู และที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็เพราะหินทรายที่เป็นสันยาวขนาดใหญ่ยื่นออกไปในหน้าผาเป็น 3 สัน ถ้ามองจากด้านบนจะเหมือนปลาวาฬ 3 ตัว คือ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำอยู่ อีกทั้งถ้ามาช่วงเช้าหรือเย็นก็จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยมากทีเดียว
"ประตูภูสิงห์" เป็นก้อนหิน 2 ก้อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมหน้าผาลักษณะคล้ายช่องเขา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกจุดหนึ่ง
ส่วนสถานที่อื่นๆที่เราไป คือ วัดหลายๆที่ "ศาลปู่อือลือ หรือ ตำหนักองค์เจ้าปู่สุริยะวงศ์ชัยนาคราชา" ศาลปู่อือลือ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดสว่างวารี ต.บึงโขงโหลง อ.บึงโขงโหลง ตอนไปถึงคนก็เยอะพอสมควรเลย แต่ทุกคนก็ไปด้วยแรงศรัทธา
หลวงพ่อพระใหญ่ วัดโพธาราม
ที่ตั้ง: ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬ 5 กิโลเมตร: บ้านท่าไคร้ จ. บึงกาฬพระอุโบสถของวัดโพธาราม เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใหญ่ ที่เป็นหลวงพ่อคู่บ้าน คู่เมืองของบึงกาฬมาอย่างยาวนาน สำหรับสุภาพสตรี ทางวัดไม่อนุญาตให้เข้าไปในโบสถนะ แต่จะให้ไหว้อยู่บริเวณด้านหน้าเท่านั้น
บริเวณภายในวัด จะมีเรือกำปั่นโบราณตั้งโชว์ไว้ให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมและจุดตั้งเรือกำปั่น จะมีทางเดินสแตนเลส ให้เดินชมรอบเรือ ทำให้เราสามารถชมได้ทุกซอกทุกมุมของตัวเรือเลย
วัดอาฮงศิลาวาส
ที่ตั้ง: ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
(อยู่ริมแม่น้ำโขงที่มีความลึกที่สุด ที่เรียกว่า สะดือแม่น้ำโขง) สะดือแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นจุดแม่น้ำโขงที่ลึกที่สุด ไม่สามารถวัดความลึกได้ และจุดนี้มีน้ำไหลเชี่ยวมาก
ในฤดูน้ำหลากและมีกระแสน้ำวนขนาดใหญ่
จุดนี้คือสะดือแม่น้ำโขง แต่เราก็ดูยังไม่ออกว่าสะดือยังไง????
จุด High Light ของวัด คือ อุทยานหินงาม ฮาฮง
วัดสว่างอารมณ์ (วัดถ้ำศรีธน) ที่ตั้ง: อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ
วัดป่าเมืองเหือง (วัดศรีบุญเรือง)
ที่ตั้ง: ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับขนานนามว่า "นาคานคร" หรือ "เมืองพญานาค" ถ้ามาวัดป่าเมืองเหืองแล้ว จะต้องมากราบไหว้ "พระพุทธนาคนิมิตต์" (หน้าทอง) เป็นพระพุทธรูปประจำวัดที่ประดิษฐานริมแม่น้ำโขง
เที่ยววัดกันแล้ว กลับโรงแรมพักผ่อน ตื่นเช้ามาเราไม่ได้ทานอาหารเช้าที่โรงแรม แต่มากันที่ "บ้านข้าวเปียก (บ้านต้น)" อยู่ในตัวเมืองห่างจากโรงแรมที่เราพักแค่ 2 กิโล เปิดตั้งแต่ 06.00 จนถึงเที่ยงเท่านั้น ตอนเราไปหน้าหนาวพอดี พื้นที่โล่งๆแบบนี้ หนาวมากๆ ทานเครื่องดื่ม ข้าวเปียกร้อนๆคลายหนาวได้ดี
ตอนไปเที่ยวภูทอกเสร็จ เราก็หาร้านอาหารกลางวันทานกัน "ร้านยายสมจิตร" อยู่ด้านหน้าวัดภูทอก อาหารมีหลายอย่างให้เลือกรับประทาน
ส่วนตอนเราไปแถวบึงโขงโหลง เราก็ไปฝากท้องมื้อกลางวันกันที่ร้าน "เพ็ญพิชชา" นั่งทานอาหาร ชมวิวบรรยากาศบึงโขงโหลง ลมพัดเย็นๆ ส่วนอาหารมีหลากหลายมาก อ้อ!! ถ้าใครไม่ทานเผ็ดต้องแจ้งร้านด้วยนะ เพราะถ้าไม่บอกจะเผ็ดมากๆๆ
ใกล้จะหนาวแล้ว อากาศที่บึงกาฬดีมากๆ อยากให้มาเที่ยวกันนะ